JRIT ICHI

【ICHI TALK】More Meat โปรตีนทางเลือกใหม่ สำหรับคนใส่ใจสุขภาพ

รายการ “ICHI TALK” เชิญชวนผู้ประกอบการสตาร์ตอัพในไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความหลงใหลในธุรกิจ และร่วมแชร์ประสบการณ์ รวมถึงข้อคิดดี ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด

ผู้ดำเนินรายการ: ในปัจจุบันเทรนด์การดูแลตัวเอง และการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคนไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากการเติบโตจากธุรกิจสายสุขภาพที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี วันนี้เราขอพาทุกคนมาพบกับคุณมินนี่ – กัญญ์วรา ธนโชติวรพงศ์ CEO & Co-founder ของ More Meat ธุรกิจ FoodTech Startup ที่เข้ามาบุกเบิกตลาด Plant-based Food ในไทยด้วยนวัตกรรมโปรตีนจากพืช ก่อนอื่นเราขอให้คุณมินนี่แนะนำ More Meat สักเล็กน้อยค่ะ

คุณมินนี่: More Meat เป็นผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช และเป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์จากพืช 100% สามารถใช้ปรุงอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ได้ และผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่า เพราะไม่มีโคเลสเตอรอล ไขมันต่ำ ทั้งยังมีไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าโปรตีนที่เราจะได้รับจากสัตว์เพียงอย่างเดียว

ผู้ดำเนินรายการ: ไม่ทราบว่า Vegan กับ Plant-based ต่างกันอย่างไรคะ

คุณมินนี่: Plant-based คือ สิ่งที่ทำมาจากพืช ซึ่ง plant-based diet หรือโภชนาการที่กินพืชเป็นหลัก จะมีระดับความเคร่งในระดับที่ต่างกัน แต่ยังสามารถกินเนื้อสัตว์ได้ ในขณะที่ Vegan คือ วิถีชีวิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Plant-based และคนที่เชื่อในเรื่อง Vegan จะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์เลย เช่น การบริโภคเนื้อสัตว์หรืออาหารที่ได้รับจากสัตว์ เช่น น้ำผึ้ง หรือมะพร้าวที่ใช้ลิงเก็บ เป็นต้น แน่นอนว่า Vegan ก็จะไม่ใช้สิ่งของที่มีหนังสัตว์เช่นเดียวกัน

ผู้ดำเนินรายการ: อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ More Meat ให้ฟังหน่อยค่ะ

คุณมินนี่: เริ่มต้นทำธุรกิจนี้ร่วมกับพี่ชาย โดยเกิดมาจากการพูดคุยกันในครอบครัว แล้วตระหนักได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มาก ทำการเกษตรได้ดี มีพืชผักท้องถิ่นที่ดีเป็นจำนวนมาก แต่เราไม่ค่อยมีนวัตกรรมทางด้านอาหารมากเท่าไร จึงคิดอยากจะเพิ่มมูลค่าสินค้าเหล่านี้ จากนั้นก็เริ่มศึกษาแล้วพบว่าในประเทศแถบตะวันตกมีนวัตกรรมในเรื่อง Plant-based เลยสนใจ และคิดจะทำอาหารออกมาในแบบนี้ดู เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างนวัตกรรมทางด้านอาหารให้กับประเทศไทย ในตอนแรก คือ เริ่มนำเข้าผลิตภัณฑ์ Plant-based จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยก่อน เพื่อศึกษาผู้บริโภคในแง่ของความต้องการ กลุ่มลูกค้า รวมไปถึงการสื่อสารกับลูกค้าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม message ของอาหาร Plant-based ในต่างประเทศมักจะนำเสนอเรื่องการลดโลกร้อน เป็นการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับโลก ซึ่งในตอนที่เราเริ่มทำในปี 2017 คนไทยในตอนนั้นยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก ทำให้เราเริ่มศึกษาเพิ่มเติม และค้นพบว่าคนไทยจะใส่ใจและให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่เห็นผลได้ทันที เราจึงจับประเด็นหลักได้ว่า อาหาร Plant-based สามารถช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสุขภาพของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ทำให้เรานำประเด็นเหล่านี้มาสื่อสารกับลูกค้า

ผู้ดำเนินรายการ: จากที่เล่ามาเสื่อสักครู่ว่า ในตอนแรกมีการนำเข้าอาหาร Plant-based แต่ว่าในตอนนี้ทำผลิตภัณฑ์ของตัวเองแล้วใช่ไหมคะ ช่วยเล่าถึงตรงนี้ให้ฟังสักนิดหนึ่งได้ไหมคะ

คุณมินนี่: ตอนที่เริ่มทำเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดัง ๆ จากต่างประเทศเข้ามา แต่อย่างที่บอกว่าการสื่อสารนั้นแตกต่างกับกลุ่มลูกค้าของเรา อีกทั้งสินค้าในหลาย ๆ ตัว อาทิ เบอร์เกอร์ หรือไส้กรอกจะมีการปรุงรสชาติเอาไว้แล้ว ซึ่งคนไทยมักจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปทำอาหารต่อ เช่น ผัดกะเพรา ซึ่งจะมีการปรุงรสเพิ่มขึ้นทำให้โซเดียมเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงส่วนประกอบในสินค้าที่บางครั้งก็ไม่มั่นใจว่าดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการบริโภคอาหารจากพืชจากต่างประเทศเหล่านี้ในทุก ๆ วัน อีกข้อคือเรื่องราคาค่ะ เนื่องจากตัวเราเองเป็นแค่ผู้จำหน่ายทำให้ไม่สามารถไปบอกทางผู้ผลิตได้ว่าให้ปรุงรสหรือทำสินค้าให้ตอบโจทย์คนไทยที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคไตได้ ทำให้ส่วนตัวรู้สึกอึดอัด เพราะเราอยากกระจายสุขภาพที่ดีให้ทุกคนจากอาหารที่เราขายออกไป จึงต้องการจะเปลี่ยนตัวเองจากผู้จำหน่ายมาเป็นผู้ผลิตเองด้วย เพราะเราเองก็เห็นว่าในประเทศไทยมีพืชที่มีสรรพคุณที่ดีเยอะมาก และอยากสร้างมูลค่าให้กับพืชเหล่านั้น รวมถึงเล็งเห็นว่าอาหารจากพืชจะช่วยตอบโจทย์ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การพัฒนาชุมชนและเกษตรกรในไทย รวมถึงพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้ดำเนินรายการ: ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่ออกมาภายใต้แบรนด์ More Meat คืออะไรคะ

คุณมินนี่: ตัวแรกชื่อว่า More Meat Unseasoned ค่ะ เป็นเนื้อบดจากพืชที่ไม่ได้ปรุงรสแต่งกลิ่นเลย ซึ่งก็ทำให้เรามีเอกลักษณ์ และสร้างความแตกต่างในตลาด เพราะไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลยค่ะ เนื่องจากเราต้องการเน้นในเรื่องการใช้วัตถุดิบที่ดี โดยเราเลือกใช้เห็ดแครงจากชุมชนในจังหวัดสงขลา และสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีจุดเด่นมากมาย ทั้งเรื่องรสสัมผัส และสารเบต้ากลูแคนในเห็ด อีกทั้งยังต้องการให้ลูกค้าของเราทราบว่าโปรตีนที่ดีนั้นสามารถหาได้จากหลายแหล่งไม่จำเป็นต้องมาจากสัตว์เพียงอย่างเดียว

ผู้ดำเนินรายการ: นอกจากการสื่อสารกับผู้บริโภคแล้ว ได้มีการทำการตลาดในด้านอื่น ๆ อีกไหมคะ

คุณมินนี่: การตลาดที่เราทำคือการตลาดแบบ corporate ค่ะ โดยเข้าไปร่วมกับผู้ประกอบการอื่น เช่น V-Food หรือร้านอาหาร Veganerie ที่มีความเชื่อและกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกัน ทำให้เราสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ขึ้นมาได้จากเครือข่ายเหล่านี้ อีกอย่างคือการเข้าไปอยู่ในกลุ่มของคนที่ทานอาหารจากพืชเพื่อทำความรู้จักตลาดและสร้างรอยัลตี้ให้กับแบรนด์ของเรา เพราะเราเชื่อมั่นมากว่าสินค้าของเราสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้ จึงทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่อาจจะมองในแง่ของโอกาสทางการตลาด แต่เรามีความเชื่อและอยากจะพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าให้ได้

ผู้ดำเนินรายการ: ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา ได้พบเจอปัญหาอะไรที่คิดว่าน่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจหรือเป็นประสบการณ์ให้กับผู้ชมรายการได้บ้างคะ

คุณมินนี่: ปัญหามีเยอะแยะมากมายเลยค่ะ แต่สิ่งสำคัญ คือ จุดยืนและเป้าหมายของเรา เนื่องจากการเป็นสตาร์ทอัพขนาดเล็กมักจะมีโอกาสเข้ามามากมาย เช่น การร่วมทุน แต่สิ่งที่ต้องมี คือ การที่เราไม่หลงทางและมีจุดยืนที่สำคัญกับตัวเอง อย่าง More Meat ก็จะมี Core value 3 ข้อคือ ตอบโจทย์ให้กับสุขภาพผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากลืมตรงนี้ไปก็จะทำให้เราเดินออกนอกเส้นทางและเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยเจอปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ ไม่ว่าจะมีโอกาสอะไรเข้ามา เราก็จะตอบรับทั้งหมด ซึ่งในบางครั้งโอกาสนั้นก็ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกับเรา จึงคิดว่าการที่เรามีจุดยืนเป็นของตัวเอง มันทำให้เรามองเห็นเส้นทางที่จะเดินได้ง่าย และรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

ผู้ดำเนินรายการ: ต่อไปอยากให้เล่าถึงเรื่องนวัตกรรมกันบ้างว่าทาง More Meat ได้มีการนำนวัตกรรมอะไรมาใช้บ้าง

คุณมินนี่: นวัตกรรมที่เรานำมาใช้ในการผลิตตัวเนื้อในปัจจุบันก็คือ Protein multification technology การสกัดโปรตีนหรือการสร้างโปรตีนที่สมบูรณ์ขึ้นมา โดยเราได้มีการเลือกใช้พืชหลากหลายชนิดมาสร้างสรรค์อาหารที่ครบถ้วน เพราะโปรตีนที่สมบูรณ์จะเกิดจากกรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วน ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้จะได้มาจากพืชหลากหลายชนิด ในส่วนของนวัตกรรมที่กำลังพัฒนานั้นยังบอกไม่ได้ แต่จะให้เนื้อสัมผัสอีกแบบหนึ่ง ซึ่งได้มีการนำ AI เข้ามาช่วยในเรื่องของ Genetic algorithm หรือการที่เอาข้อมูลมาวิเคราะห์หาเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุดที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารให้อร่อยได้ ตรงนี้เป็นข้อมูลที่เรานำมาใช้ในการทำเนื้อจากพืชที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งอาหารจากพืชนั้นให้ความรู้สึกเหมือนดินน้ำมัน คือ สามารถดัดแปลงรูปร่างอย่างไรก็ได้ หรือทำสูตรไหนก็ได้ ซึ่งน่าสนใจและเรารู้สึกสนุกกับการหานวัตกรรมและเทคโนโลยีหลาย ๆ ด้านมาปรับใช้กับอาหารจากพืชให้ไม่น่าเบื่อ

ผู้ดำเนินรายการ: ความสำเร็จของ More Meat ที่ได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นยังไงบ้างคะ

คุณมินนี่: ยังไม่มั่นใจว่าเป็นความสำเร็จไหม แต่เป็นความภาคภูมิใจของ More Meat ค่ะ เพราะเมื่อก่อนตอนที่เริ่มทำใหม่ ๆ คนไทยยังไม่รู้จักเห็ดแครง แต่ปัจจุบันมีคนรู้จักมากขึ้น ตรงนี้ก็คิดว่าทาง More Meat ก็มีส่วนช่วยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้เกษตรกรที่ปลูกเห็ดแครงได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการที่มีคนนำเห็ดแครงไปใช้ ซึ่งความภูมิใจตรงนี้ตัวเองมองว่าเป็นความสำเร็จของเราค่ะ

ผู้ดำเนินรายการ: มองว่าแนวโน้มของผู้บริโภคอาหารจากพืชจะเป็นไปในทิศทางไหนบ้างคะ

คุณมินนี่: แนวโน้มในไทยคิดว่ามีโอกาสโตได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ จากงานวิจัยล่าสุดพบว่าประเทศไทยและจีนเป็น 2 ประเทศที่มีการเติบโตของอาหารจากพืชสูงมาก อย่างน้อยที่สุดในทุกปีเราจะมีเทศกาลกินเจ ซึ่งก็ต้องใช้สินค้าเหล่านี้อยู่แล้ว รวมถึงความเข้าใจในเรื่องโภชนาการที่มีมากขึ้น ตั้งแต่เกิดโควิดขึ้น หลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับอาหารที่ตนเองบริโภคมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะเลือกบริโภคอาหารจากพืชมากขึ้นค่ะ

ผู้ดำเนินรายการ: หากต้องการติดตามข่าวสารหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ More Meat สามารถติดตามได้ช่องทางไหนบ้างคะ

คุณมินนี่: สามารถติดตามได้ทาง social media ต่าง ๆ ได้เลยค่ะ เรามี Facebook, Instagram และ Line โดยใช้ชื่อว่า moremeat.asia ทั้งหมดทุกแพลตฟอร์มค่ะ

Website: https://www.moremeat.asia/
Facebook/Instagram: @moremeat.asia

ผู้ดำเนินรายการ: ช่วงสุดท้ายนี้อยากให้ช่วยให้กำลังใจกับผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากการระบาดของโควิดหน่อยค่ะ

คุณมินนี่: ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ขอให้ทุกคนสามารถผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตามออย่าเก็บมาคิดคนเดียวให้ลองขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือลองดูว่ายังมีโอกาสอื่น ๆ ให้เราบ้างไหม แล้วก็อย่ายอมแพ้นะคะ ถ้าเรามีจุดยืนที่ดีและเชื่อในสิ่งนั้นก็อยากให้ทำให้สำเร็จ เพราะสิ่งที่คุณเชื่อจะต้องมีคนที่เชื่อเหมือนคุณอยู่อย่างแน่นอน

** ผู้สนใจรับชมรายการ ICHI TALK ในรูปแบบวิดีโอ สามารถรับชมผ่าน ICHI Website โซน VIDEO ได้ทันที **